Saturday, 1 April 2023
Bangkok I love you

คิดค้นโดยคนไทย แบตเตอรี่กราฟีน ชาร์จไว จุไฟนาน

ต้องยอมรับว่า ในตอนนี้ รถยนต์ไฟฟ้า EVs ยังมีข้อจำกัดอยู่หลายประการอย่างราคาแบตเตอรี่ที่แพง และการชาร์จเพื่อใช้งานในแต่ละครั้งที่ต้องใช้เวลานาน ทำให้หลายคนยังไม่ตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า แต่ล่าสุด สจล.ได้คิดค้นนวัตกรรม ‘แบตเตอรี่กราฟิน’ สำหรับ EVs ครั้งแรกในประเทศไทย ที่อาจจะเข้ามาพลิกโฉมวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในไทยในทิศทางที่ดีขึ้น

.

‘แบตเตอรี่กราฟีน’ ดังกล่าว มีจุดเด่น คือ การกักประจุไฟฟ้าที่มากขึ้น และมีอัตราการอัดประจุไฟฟ้าที่เร็วกว่าแบตเตอรี่แบบเดิม และที่สำคัญ ราคาถูก ทนทาน ปลอดภัยต่อการใช้งาน ไม่ระเบิด ไม่ติดไฟ

.

โดย กราฟีน ถือเป็นวัสดุที่นานาประเทศยอมรับว่า มีความสำคัญในการสร้างนวัตกรรมในอนาคต โดยจะเป็นชั้นอะตอมของคาร์บอนที่เรียงตัวต่อกันเป็นโครงหกเหลี่ยม ซึ่งบางที่สุดในโลก แข็งแกร่งกว่าเพชรและเหล็กกล้าถึง 200 เท่า และนำไฟฟ้าและความร้อนได้ดีที่สุดในโลก

.

สำหรับ การผลิต ‘แบตเตอรี่กราฟีน’ จะใช้รีดิวซ์กราฟีนออกไซด์ ร่วมกับคาร์บอนจากวัสดุการเกษตรธรรมชาติ เช่น ถ่านเปลือกทุเรียน ถ่านกัญชง ถ่านหินลิกไนต์ และคาร์บอนทั่วไป มาทำเป็นขั้วไฟฟ้า พร้อมทั้งยังพัฒนาวัสดุใหม่ อย่างวัสดุคอมโพสิตยางพาราผสมนาโนกราฟีนออกไซด์ เพื่อป้องกันการคายประจุจากไฟฟ้าสถิต ทั้งเป็นตัวดูดซับสารอิเล็กโทรไลต์ให้มีสภาพเปียกได้สูง มีพื้นที่ผิวจำเพาะสูง ช่วยให้การเคลื่อนที่ของไอออนไหลผ่านได้ดีขึ้นจากรูพรุนที่เหมาะสม ส่งผลให้ยางพารามีประสิทธิภาพในการเป็นตัวแยกขั้วไฟฟ้าที่ดี ไม่มีความร้อนสะสมภายใน ทนต่อความร้อน และปฏิกิริยาเคมีจากกราฟีนออกไซด์

.

ที่ผ่านมาเป้าหมายการผลิต ‘กราฟีน’ ได้สำเร็จไปแล้วในเฟสที่ 1 ด้วยกำลังผลิตเดือนละ 15 กก. ลดการนำเข้าได้ กก.ละกว่า 10 ล้านบาท โดย สจล.เป็นแห่งเดียวในไทย ที่สามารถผลิต ‘กราฟีน’ ได้เอง

.

และล่าสุด สจล. ก็ได้คิดค้น ‘แบตเตอรี่กราฟีน’ ได้สำเร็จในเฟสที่ 2

.

สำหรับแนวทางการทดลอง ‘แบตเตอรี่กราฟีน’ ในรถยนต์ไฟฟ้า ทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จะเริ่มทดลองในเฟสที่ 3-4 กับ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รถตุ๊กๆ สามล้อ โดยคาดว่าจะเริ่มทดลองได้ในช่วงปลายปี 2566 หรือต้นปี 2567 จากนั้นจะขยายการวิจัยไปที่การใช้งานกับ ‘รถยนต์ไฟฟ้า EVs’

.

โดยหากผลิต ‘แบตเตอรี่กราฟีน’ ได้สำเร็จ คนไทยเฮได้เลย! เพราะราคาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า จะถูกลงกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมที่ใช้ในปัจจุบันได้ราว 50-60% จากราคาตลาดลิเธียมที่แพงและต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

.

นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) จากการลดปริมาณวัสดุเหลือใช้ในประเทศ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

.

อย่างไรก็ตาม ทาง รศ.ดร.คมสัน มาลีสี รักษาการอธิการบดี สจล. กล่าวว่า วันที่ 27-29 เมยายนนี้ สจล. จะนำนวัตกรรม ‘แบตเตอรี่กราฟีน’ ไปจัดแสดงผลงานในงาน KMITL INNOVATION EXPO 2023 ภายในงานมีผลงานสิ่งประดิษฐ์ฝีมือคนไทย จำนวน 1,111 ชิ้น ที่น่าสนใจ เช่น ผ้าไหมไทยย้อมกราฟีนแบบใส่ในเมืองร้อนและเมืองหนาว เม็ดพลาสติกกราฟีน และระบบตรวจจับ Plasma Bubble ในชั้นบรรยากาศ และอื่น ๆ อีกมากมาย

.

ขอบคุณข้อมูลจาก

-KomChadLuek

http://bit.ly/40tO2BX

-Bangkokbiznews

http://bit.ly/3U1qrGm

.

#BangkokIloveYou

#มาร่วมสร้างกรุงเทพกัน

ความภูมิใจของคนไทย ร้านอาหารไทย Le Du ได้รับรางวัลร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย

 ร้านอาหาร Le Du ในกรุงเทพฯ ได้รับรางวัลร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย The Best Restaurant in Asia จากการจัดอันดับ Asia’s 50 Best Restaurants ที่ได้รับการสนับสนุนโดย S.Pellegrino & Acqua Panna งานประกาศรางวัลนี้ได้จัดขึ้นที่ Resorts World Sentosa ประเทศสิงคโปร์ การตัดสินรางวัลมาจากการโหวตของ Asia’s 50 Best Restaurants Academy ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลในวงการอาหารรวมกว่า 300 คน เช่น นักเขียนบทความอาหารและนักวิจารณ์ เชฟ ผู้ประกอบการร้านอาหาร และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารในระดับภูมิภาค

 

ร้านอาหาร Le Du และ Nusara ในกรุงเทพฯ คว้าตำแหน่ง No.1 และ No.3 ไปครองตามลำดับ โดยร้าน Le Du ของเชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร นำเสนอรสชาติอาหารไทยที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานกับแนวคิดของอาหารฝรั่งเศส เมนูอาหารของทางร้านเน้นการใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลและวัตถุดิบในท้องถิ่น ด้วยความเชื่อมั่นในคุณภาพของวัตถุดิบในไทย

.

ส่วนร้านอาหารที่รั้งตำแหน่ง No.2 คือร้าน Sezanne ในโตเกียว พร้อมกับควบตำแหน่งร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งประเทศญี่ปุ่น The Best Restaurant in Japan อีกหนึ่งตำแหน่ง

 

การคว้าตำแหน่ง No.1 ไปครองนี้ เท่ากับว่า ร้าน Le Du ได้รับตำแหน่งร้านอาหารยอดเยี่ยมควบสองตำแหน่งพร้อมกัน ได้แก่ ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย The Best Restaurant in Asia ที่ได้รับการสนับสนุนโดย S.Pellegrino & Acqua Panna และร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย The Best Restaurant in Thailand

 

William Drew ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์ของ Asia’s 50 Best Restaurants กล่าวว่า เราขอแสดงความยินดีกับร้านอาหารทุกร้านที่ได้รับการจัดอันดับในปีนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เราขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับร้าน Le Du รวมถึงเชฟต้นและทีมงาน ซึ่งสามารถผสมผสานความมุ่งมั่นในการสืบสานวัฒนธรรมอาหารไทย ความเคารพต่อวัตถุดิบในท้องถิ่น และเทคนิคการทำอาหารที่ทันสมัยได้อย่างลงตัว จนส่งผลให้ร้านอาหารแห่งนี้เป็นผู้ชนะอย่างแท้จริงในการจัดอันดับครั้งนี้

 

ร้านอาหารที่ติดอันดับในปีนี้มาจาก 19 เมือง และมีร้านอาหารที่เข้ามาติดอันดับเป็นครั้งแรก 7 ร้าน

 

– Labyrinth (No.11) ในสิงคโปร์ กระโดดขึ้นมามากถึง 29 อันดับ จนคว้ารางวัล Highest Climber Award

– Avartana (No.30) ในเจนไน ได้รับรางวัล Highest New Entry Awardที่ได้รับการสนับสนุนโดย Aspire Lifestyles

– Toyo Eatery (No.42) ในมะนิลา คว้ารางวัล Flor de Cana Sustainable Restaurant Award

– Zen (No.21) ในสิงคโปร์ ได้รับรางวัล Gin Mare Art of Hospitality Award

– Louisa Lim จากร้าน Odette (No.6) ในสิงคโปร์ คว้ารางวัล Asia’s Best Pastry Chef ที่ได้รับการสนับสนุนโดยValrhona

– Della Tang จากร้าน Ensue (No.31) ในเซินเจิ้น คว้ารางวัล Beronia Asia’s Best Sommelier Award ที่มีการมอบเป็นครั้งแรก

– Hiroyasu Kawate จากร้าน Florilege (No.7) ในโตเกียว ได้รับรางวัล Inedit Damm Chefs’ Choice Award ไปครอง

สำหรับร้านอาหารที่เข้ามาติดอันดับเป็นครั้งแรกในปีนี้ประกอบด้วยร้าน Avartana (No.30) ในเจนไน, ร้าน Born (No.36) ในสิงคโปร์, ร้าน Metiz (No. 48) ในมะนิลา, ร้าน Refer (No.50) ในปักกิ่ง รวมถึงร้าน Ms. Maria & Mr. Singh (No.33), ร้าน Potong(No.35) และ Baan Tepa (No.46) ในกรุงเทพฯ

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์

ซาอุ! เที่ยวไทยพุ่ง ไทยโกย 1.2 หมื่นล้าน คาดนทท. ปีนี้ แตะ 1.5 แสนคน

การฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ผ่านมากว่า 1 ปีจนถึงปัจจุบัน ส่งผลบวกต่อการท่องเที่ยวของไทยอย่างชัดเจน หลังจาก 32 ปีที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียไม่อนุญาตให้พลเรือนเดินทางมายังประเทศไทยสำหรับการท่องเที่ยวแต่อนุญาตให้เดินทางเฉพาะเพื่อการรักษาพยาบาล การติดต่อเจรจาธุรกิจ/ราชการเท่านั้น
นักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียตลาดดาวรุ่งท่องเที่ยวไทย

 

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ททท.ให้ความสำคัญในการทำตลาดเชิงรุกสำหรับนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากเป็นตลาดดาวรุ่ง (Emerging Markets) ที่มีกำลังซื้อสูง และเดินทางเป็นครอบครัวใหญ่ นิยมเดินทางมาประเทศไทยเพื่อใช้บริการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และรักษาพยาบาล จุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยม ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา พังงา และกระบี่ ทั้งนี้ในปัจจุบันการบินไทย เเละสายการบิน Saudia ให้บริการเที่ยวบินตรงมาไทย จากเมืองริยาด เเละเจดดาห์ และมีเที่ยวบินต่อเครื่องในตะวันออกกลาง โดยสายการบินเอมิเรสต์ กาตาร์ แอร์เวย์ส และเอทิฮัด แอร์เวย์ส

 

ซาอุฯเที่ยวไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ในปี 2565 ไทยมีนักท่องเที่ยวจากซาอุดีอาระเบีย 96,389 คน ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สร้างรายได้มากกว่า 8,000 ล้านบาท และทิศทางยังแรงต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-12 มี.ค.2566 มีนักท่องเที่ยวซาอุฯ เดินทางเข้าไทยเเล้ว 20,693 ราย สำหรับในปี 2566 ททท.คาดการณ์เป้านักท่องเที่ยวซาอุฯ อยู่ที่ราว 150,000 คน ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อทริป รายละประมาณ 80,000 บาท คาดว่าจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวกว่า 12,000 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ มีปัจจัยเชิงบวกที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการเจรจาปรับปรุงสิทธิการบินของไทยและซาอุดีอาระเบีย ที่กำหนดเพิ่มเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสาร จากเดิมฝ่ายละ 9 เที่ยว/สัปดาห์ เป็นฝ่ายละไม่เกิน 42 เที่ยว/สัปดาห์
เที่ยวบินเข้าไทยพุ่งหลังปรับปรุงสิทธิการบินไทย-ซาอุ

 

ประโยชน์ในการปรับปรุงสิทธิการบิน จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้การบินทั้ง 2 ฝ่าย มีความคล่องตัว เพิ่มความยืดหยุ่นในการวางแผนการตลาดให้การบริการเกิดความคุ้มทุนมากขึ้น และอำนวยความสะดวกและเพิ่มทางเลือกแก่ผู้โดยสารด้วย โดยมีกำหนดเพิ่มเที่ยวบินเส้นทางเจดดาห์-กรุงเทพฯ ของสายการบิน Saudia ในเดือนมี.ค.นี้ จาก 7 เที่ยว เป็น 11 เที่ยว/สัปดาห์ กำหนดการเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ โดยสายการบิน Saudia เส้นทาง เจดดาห์-ภูเก็ต ในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้ ททท.เน้นทำตลาดเชิงรุก

 

นายยุทธศักดิ์ ยังกล่าวต่อว่า สำหรับการทำตลาดททท.จะเน้นทำตลาดเชิงรุกทั้งในระดับ B2B และ B2Cโดยในเดือนพ.ค.นี้ จะจัดกิจกรรม Post ATM Road Show to Jeddah -Riyadh-Dammam ระหว่างวันที่ 7-11 พ.ค.2566 ณ เมืองเจดดาห์, กรุงริยาด และเมืองดัมมัม เปิดรับสมัครเอกชนไทย 60 ราย กระตุ้นการขายการท่องเที่ยวในช่วงหลังเดือนรอมฎอน (ปลายมี.ค.-เม.ย. 2566)โดยมองเป้าหมายขยายโอกาสทางการตลาดไปยังเมืองขนาดใหญ่ต่างๆ ในซาอุดีอาระเบีย และต่อยอดจากการเข้าร่วมงาน Arabian Travel Mart 2023 ระหว่างวันที่ 1-4 พ.ค.66 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

 

รวมทั้งยังมีแผนร่วมงานกับสายการบิน Saudia และการบินไทย ซึ่งให้บริการเที่ยวบินตรง โดยจัดกิจกรรมเสนอขาย Joint Sales Promotion ผ่านช่องทาง Online & Social Media ภายใต้แนวคิด WHY Thailand นำเสนอประเทศไทยในมุมมองใหม่ เพื่อเจาะกลุ่ม Arab Millennials & FIT และกิจกรรม Agents / Influencers Fam Trip สร้างการรับรู้และความคุ้นเคยกับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทย อีกทั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2566 ทางซาอุดีฯ มีการประกาศจัดตั้งสายการบินแห่งชาติแห่งใหม่ ในชื่อ Riyadh Air ดำเนินงานโดยกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย (PIF หรือ Public Investment Fund) ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดมายังไทยในอนาคตเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

ที่มา : Ar-pae.com

ไทยชนะโหวต การ์ตา ได้รับเลือก! ให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ปี 2569

15 มีค.66 ไทยชนะโหวต การ์ตา ในรอบสุดท้ายที่คัดเหลือแข่งกันเพียง2 ประเทศ ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ปี 2569 ระหว่างวันที่ 16-18 ต.ค. 2569 ซึ่งจะมีผู้เดินทางมาร่วมประชุม ซึ่งเป็นผู้บริหารการเงินระดับสูง จากทั่วโลกมาถึง 14,000 คน ประเทศที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ในครั้งนี้มีถึง 5 ประเทศ เป็นประเทศร่ำรวยมาก ถึง3 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย UAE  กาตาร์  และกรีซกับไทย

ทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ

นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) และประธานมูลนิธิอมตะ เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ 70 นับเป็นวาระสำคัญของการวางแผนชีวิต เพื่อส่งต่อความมั่นคงต่อการดำเนินงานของมูลนิธิอมตะอย่างไม่สิ้นสุด จึงทำพินัยกรรมมอบทรัพย์สินส่วนตัวให้กับมูลนิธิอมตะมูลค่ากว่า 95 % ของทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่มูลค่า 20,000 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน อาคาร คอนโดมิเนียม หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ตลอดจนทรัพย์สินส่วนตัวอื่นๆ เพื่อให้เป็นสาธารณประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้ง อันจะนำไปสู่หนึ่งในกลไกการยกระดับคุณภาพสังคม สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจไทย

.

สำหรับมูลนิธิอมตะก่อตั้งเมื่อ 27 ปีที่แล้วโดยคุณวิกรม กรมดิษฐ์ มีโครงการภายใต้วัตถุประสงค์ เช่น โครงการรางวัล “นักเขียนอมตะ”, โครงการทุนเรียนดี, โครงการประกวดศิลปกรรม “อมตะ อาร์ต อวอร์ด” โครงการด้านนวัตกรรม, โครงการหนังสือดีมีประโยชน์สร้างการเปลี่ยนแปลง และโครงการปรับปรุงอุทยานเขาใหญ่สู่อุทยานมาตรฐานโลกภายในเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นสู่ธุรกิจ ผมยึดมั่นในเป้าหมาย All Win และความมุ่งมั่นของการทำแต่สิ่งดีงามให้ไว้กับทุกคนมาโดยตลอด โดยเฉพาะเมื่อประสบความสำเร็จในธุรกิจการงานแล้วก็ควรแบ่งผลกำไรกลับคืนสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมที่มีคุณภาพน่าอยู่เช่นประเทศที่เจริญแล้ว ซึ่งผมได้นำประสบการณ์ชีวิตตั้งแต่วัยเด็กมาเรียบเรียง มาถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือพิมพ์เผยแพร่ไปแล้วกว่า 11.6 ล้านเล่ม เพื่อให้สังคมสามารถเรียนรู้ และนำไปปรับใช้ได้ในโอกาสต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น

.

ดังนั้นการทำพินัยกรรมมอบทรัพย์สินในครั้งนี้ นับเป็นความตั้งใจของผมหลังจากที่ได้ เรียนรู้ ฝึกฝนชีวิตกับวิกฤตต่าง ๆ จนขับเคลื่อนให้ธุรกิจกลุ่มอมตะประสบความสำเร็จในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมให้เป็นเมืองนวัตกรรมเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ด้วยแนวคิดที่เห็นว่า เราเกิดมาจากศูนย์ และจากไปเป็นศูนย์ ระหว่างศูนย์เราควรสร้างสรรค์สิ่งที่มีประโยชน์และคุณค่าฝากไว้ให้กับสังคมในระยะยาวตลอดไป

.

ที่มา : มติชนออนไลน์

.

#BangkokIloveYou

#มาร่วมสร้างกรุงเทพกัน

โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านพลาสมาและเทคโนโลยีฟิวชัน ระหว่าง ปตท. และ สทน.

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) (ซ้าย) และ ดร.หาญณรงค์ ฉ่ำทรัพย์ รองผู้อำนวยการ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สทน.) (ขวา) ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านพลาสมาและเทคโนโลยีฟิวชัน ระหว่าง ปตท. และ สทน.

.

โดยมีผู้บริหารของทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน การผนึกกำลังของ ปตท. และ สทน. ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อร่วมมือกันในด้านการวิจัยและพัฒนาพลาสมา เทคโนโลยีฟิวชัน และห้องปฏิบัติการขั้นสูง

.

โดยมุ่งเน้นให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการวิจัยและพัฒนาด้านพลาสมาและเทคโนโลยีฟิวชันในอาเซียนภายในปี พ.ศ. 2570 รวมทั้งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในด้านงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ระหว่าง ปตท. และ สทน.

.

ทั้งนี้ ความร่วมมือในครั้งนี้ยังสอดรับกับเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. ที่มุ่งมั่นแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ที่มีศักยภาพในการบรรลุเป้าหมายการเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)

.

เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนในการพัฒนานวัตกรรมพลังงานยั่งยืน ที่พร้อมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนและสังคมต่อไป

.

 

#ปตท

คนต่างชาติรักความเป็นไทย บอยแบรนด์เกาหลี โพสต์ภาษาไทย เผยมีความสุขที่สุดเมื่ออยู่ไทย

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไอดอลเกาหลีชื่อดังที่ดูเหมือนจะตกหลุมรักประเทศไทยเข้าอย่างจังจริง ๆ สำหรับหนุ่ม “นาแจมิน” หนึ่งในสมาชิกวงบอยแบรนด์ระดับโกลบอลอย่าง NCT DREAM ที่เมื่อไม่นานมานี้เจ้าตัวเคยเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยเงียบ ๆ คนเดียว ก่อนจะได้ร่วมขึ้นแสดงคอนเสิร์ตร่วมกับสมาชิกอีก 6 คนเมื่อวันที่ 10-12 มีนาคม ที่ผ่านมา

โดยเจ้าตัวนั้นประทับใจแฟนคลับชาวไทยเป็นอย่างมากจนถึงขั้นโพสต์ขอบคุณแฟนคลับเป็นภาษาไทย ใจความว่า “ผมมีความสุขมากๆ ในคอนเสิร์ตทั้ง 3 วันที่ประเทศไทย และผมจะไม่มีวันลืมภาพความทรงจำที่ทั่วทั้งฮอลล์เต็มไปด้วยแสงสีเขียวเลยครับ ในคอนเสิร์ตครั้งหน้า ก็หวังว่าจะได้เจอกันในที่ๆ มีแสงสีเขียวมากขึ้นนะครับ!” พร้อมอิโมจิรูปหัวใจสีเขียว แถมยังลงรูปภาพอีกนับสิบ เรียกได้ว่างานนี้ NCTzen DREAM (ชื่อแฟนคลับ) หน้าชื่นตาบาน เรียกไม่หันสุด ๆ เลยก็ว่าได้ 

 

ที่มา : ประเทศไทยต้องชนะ

เดินหน้าธุรกิจ E-Truck และ E-Mobility Arun Plus จับมือ SANY Leadway Rootcloud ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ

 

 

นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (กลาง) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อแสวงหาโอกาสในการเข้าสู่ธุรกิจ E-Truck และ E-Mobility ครบวงจร และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย

.

โดยมี นายเอกชัย ยิ้มสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (Arun Plus) (ที่ 2 จากซ้าย) Mr. Da Rui (ดา รุย) Managing Director Southeast Asia, SANY Heavy Industry (Thailand) Co., Ltd. (SANY) (ที่ 2 จากขวา) คุณ ฉกาจ แสนจัน Chief Executive Officer, Leadway Heavy Machinery Co., Ltd. (Leadway) (ซ้ายสุด) และ Mr. Ho Howe Tian (โฮ ฮาว เทียน) Managing Director ASEAN, Rootcloud Technology Co., Ltd. (Rootcloud) (ขวาสุด) ร่วมลงนาม

.

ความร่วมมือครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมสำหรับการผลิต ช่องทางการขาย และการจัดจำหน่าย E-Truck และเทคโนโลยี E-Mobility ในไทยและภูมิภาคอาเซียน สอดคล้องกับแผนการลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์ตามทิศทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และกลยุทธ์ New S-Curve ของ ปตท. ในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน

.

ที่มุ่งเน้นการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายขนส่งทั้งหมดของประเทศไทยและระบบขนส่งเชื่อมต่อระหว่างประเทศ อาทิ การขนส่งสินค้าทางราง ทางทะเล ทางบก และทางอากาศ E-Truck และ E-Mobility

.

จึงมีส่วนสำคัญยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์ ช่วยขับเคลื่อนระบบการขนส่งของไทยไปสู่การเป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจรต่อไป

.

ฟื้นประเทศด้วยท่องเที่ยว

ดันท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ ลุ้นนักท่องเที่ยวพุ่ง 27.29 ล้านคน

.

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย อยู่ที่ 27.29 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเติบโต 2.4 ล้านล้านบาท โดยคิดเป็น 60% ของรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2562 โดยในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยมาแล้ว 4.2 ล้านคน และในปี 2570 ได้ตั้งเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวเติบโต 25% ของจีดีพี

.

ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 14 มี.ค. นี้ เพื่อพิจารณาประกาศให้การฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ โดยมี 3 ขั้นตอนของวาระแห่งชาติดังกล่าวที่ต้องดำเนินการ แบ่งเป็น

.

1. พร้อมรับ (ปี 66-67) ด้วยการเปิดประเทศให้สร้างความประทับใจมากกว่าที่เคย สอดรับความต้องการตลาดท่องเที่ยวโลกหลังโควิดและช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างทันท่วงที โดยชูจุดแข็งของประเทศไทย

.

2. การพัฒนา (ปี 66-68) โดยการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและปัจจัยเอื้อต่อการพัฒนาครอบคลุมรูปแบบการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง เช่น การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ เป็นต้น ซึ่งจะสร้างความมั่น และ

.

3. การพลิกโฉม (ปี 66-70) ด้วยการพลิกโฉมสู่การท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการแบบองค์รวมตลอดห่วงโซ่อุปทาน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับชุมชน เน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบและมีความหมาย ใช้โมเดลเศรษฐกิจบีซีจี

.

ที่มา เพจประเทศไทยต้องชนะ

.

#BangkokIloveYou

#มาร่วมสร้างกรุงเทพกัน

มุ่งสู่อนาคตในโลกดิจิทัล Mekha V ธุรกิจของกลุ่มปตท. รับรางวัล Microsoft Partner of the Year 2022

 

 

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) รับรางวัล Microsoft Partner of the Year 2022 จากนายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในโอกาสที่บริษัท เมฆา วี จำกัด (Mekha V)

.

ซึ่งเป็น Flagship ด้าน AI, Robotics & Digitalization ของกลุ่ม ปตท. ได้รับรางวัลสาขา “Intelligent Cloud กลุ่มธุรกิจภาครัฐ ภาคการศึกษา และสาธารณสุข” สะท้อนความสำเร็จในการพัฒนาและเติมเต็มระบบนิเวศการใช้คลาวด์ (Cloud Ecosystem) ของกลุ่ม ปตท. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านดิจิทัล และสร้างโอกาสการเติบโตไปยังธุรกิจที่ไกลกว่าการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมที่หลากหลายบนดิจิทัลแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ ตามทิศทางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ของ ปตท.

.

รางวัล Partner of the Year 2022 เป็นรางวัลที่มอบให้พันธมิตรที่นำเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ไปสรรสร้างนวัตกรรม และพัฒนา Solution สำหรับการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีใหม่ให้กับองค์กร สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

.

 


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Bangkok I Love You
Take Me Top