Wednesday, 7 June 2023
Bangkok I love you

โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านพลาสมาและเทคโนโลยีฟิวชัน ระหว่าง ปตท. และ สทน.

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) (ซ้าย) และ ดร.หาญณรงค์ ฉ่ำทรัพย์ รองผู้อำนวยการ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สทน.) (ขวา) ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านพลาสมาและเทคโนโลยีฟิวชัน ระหว่าง ปตท. และ สทน.

.

โดยมีผู้บริหารของทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน การผนึกกำลังของ ปตท. และ สทน. ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อร่วมมือกันในด้านการวิจัยและพัฒนาพลาสมา เทคโนโลยีฟิวชัน และห้องปฏิบัติการขั้นสูง

.

โดยมุ่งเน้นให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการวิจัยและพัฒนาด้านพลาสมาและเทคโนโลยีฟิวชันในอาเซียนภายในปี พ.ศ. 2570 รวมทั้งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในด้านงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ระหว่าง ปตท. และ สทน.

.

ทั้งนี้ ความร่วมมือในครั้งนี้ยังสอดรับกับเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. ที่มุ่งมั่นแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ที่มีศักยภาพในการบรรลุเป้าหมายการเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)

.

เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนในการพัฒนานวัตกรรมพลังงานยั่งยืน ที่พร้อมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนและสังคมต่อไป

.

 

#ปตท

คนต่างชาติรักความเป็นไทย บอยแบรนด์เกาหลี โพสต์ภาษาไทย เผยมีความสุขที่สุดเมื่ออยู่ไทย

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไอดอลเกาหลีชื่อดังที่ดูเหมือนจะตกหลุมรักประเทศไทยเข้าอย่างจังจริง ๆ สำหรับหนุ่ม “นาแจมิน” หนึ่งในสมาชิกวงบอยแบรนด์ระดับโกลบอลอย่าง NCT DREAM ที่เมื่อไม่นานมานี้เจ้าตัวเคยเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยเงียบ ๆ คนเดียว ก่อนจะได้ร่วมขึ้นแสดงคอนเสิร์ตร่วมกับสมาชิกอีก 6 คนเมื่อวันที่ 10-12 มีนาคม ที่ผ่านมา

โดยเจ้าตัวนั้นประทับใจแฟนคลับชาวไทยเป็นอย่างมากจนถึงขั้นโพสต์ขอบคุณแฟนคลับเป็นภาษาไทย ใจความว่า “ผมมีความสุขมากๆ ในคอนเสิร์ตทั้ง 3 วันที่ประเทศไทย และผมจะไม่มีวันลืมภาพความทรงจำที่ทั่วทั้งฮอลล์เต็มไปด้วยแสงสีเขียวเลยครับ ในคอนเสิร์ตครั้งหน้า ก็หวังว่าจะได้เจอกันในที่ๆ มีแสงสีเขียวมากขึ้นนะครับ!” พร้อมอิโมจิรูปหัวใจสีเขียว แถมยังลงรูปภาพอีกนับสิบ เรียกได้ว่างานนี้ NCTzen DREAM (ชื่อแฟนคลับ) หน้าชื่นตาบาน เรียกไม่หันสุด ๆ เลยก็ว่าได้ 

 

ที่มา : ประเทศไทยต้องชนะ

เดินหน้าธุรกิจ E-Truck และ E-Mobility Arun Plus จับมือ SANY Leadway Rootcloud ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ

 

 

นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (กลาง) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อแสวงหาโอกาสในการเข้าสู่ธุรกิจ E-Truck และ E-Mobility ครบวงจร และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย

.

โดยมี นายเอกชัย ยิ้มสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (Arun Plus) (ที่ 2 จากซ้าย) Mr. Da Rui (ดา รุย) Managing Director Southeast Asia, SANY Heavy Industry (Thailand) Co., Ltd. (SANY) (ที่ 2 จากขวา) คุณ ฉกาจ แสนจัน Chief Executive Officer, Leadway Heavy Machinery Co., Ltd. (Leadway) (ซ้ายสุด) และ Mr. Ho Howe Tian (โฮ ฮาว เทียน) Managing Director ASEAN, Rootcloud Technology Co., Ltd. (Rootcloud) (ขวาสุด) ร่วมลงนาม

.

ความร่วมมือครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมสำหรับการผลิต ช่องทางการขาย และการจัดจำหน่าย E-Truck และเทคโนโลยี E-Mobility ในไทยและภูมิภาคอาเซียน สอดคล้องกับแผนการลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์ตามทิศทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และกลยุทธ์ New S-Curve ของ ปตท. ในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน

.

ที่มุ่งเน้นการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายขนส่งทั้งหมดของประเทศไทยและระบบขนส่งเชื่อมต่อระหว่างประเทศ อาทิ การขนส่งสินค้าทางราง ทางทะเล ทางบก และทางอากาศ E-Truck และ E-Mobility

.

จึงมีส่วนสำคัญยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์ ช่วยขับเคลื่อนระบบการขนส่งของไทยไปสู่การเป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจรต่อไป

.

ฟื้นประเทศด้วยท่องเที่ยว

ดันท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ ลุ้นนักท่องเที่ยวพุ่ง 27.29 ล้านคน

.

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย อยู่ที่ 27.29 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเติบโต 2.4 ล้านล้านบาท โดยคิดเป็น 60% ของรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2562 โดยในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยมาแล้ว 4.2 ล้านคน และในปี 2570 ได้ตั้งเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวเติบโต 25% ของจีดีพี

.

ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 14 มี.ค. นี้ เพื่อพิจารณาประกาศให้การฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ โดยมี 3 ขั้นตอนของวาระแห่งชาติดังกล่าวที่ต้องดำเนินการ แบ่งเป็น

.

1. พร้อมรับ (ปี 66-67) ด้วยการเปิดประเทศให้สร้างความประทับใจมากกว่าที่เคย สอดรับความต้องการตลาดท่องเที่ยวโลกหลังโควิดและช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างทันท่วงที โดยชูจุดแข็งของประเทศไทย

.

2. การพัฒนา (ปี 66-68) โดยการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและปัจจัยเอื้อต่อการพัฒนาครอบคลุมรูปแบบการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง เช่น การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ เป็นต้น ซึ่งจะสร้างความมั่น และ

.

3. การพลิกโฉม (ปี 66-70) ด้วยการพลิกโฉมสู่การท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการแบบองค์รวมตลอดห่วงโซ่อุปทาน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับชุมชน เน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบและมีความหมาย ใช้โมเดลเศรษฐกิจบีซีจี

.

ที่มา เพจประเทศไทยต้องชนะ

.

#BangkokIloveYou

#มาร่วมสร้างกรุงเทพกัน

มุ่งสู่อนาคตในโลกดิจิทัล Mekha V ธุรกิจของกลุ่มปตท. รับรางวัล Microsoft Partner of the Year 2022

 

 

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) รับรางวัล Microsoft Partner of the Year 2022 จากนายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในโอกาสที่บริษัท เมฆา วี จำกัด (Mekha V)

.

ซึ่งเป็น Flagship ด้าน AI, Robotics & Digitalization ของกลุ่ม ปตท. ได้รับรางวัลสาขา “Intelligent Cloud กลุ่มธุรกิจภาครัฐ ภาคการศึกษา และสาธารณสุข” สะท้อนความสำเร็จในการพัฒนาและเติมเต็มระบบนิเวศการใช้คลาวด์ (Cloud Ecosystem) ของกลุ่ม ปตท. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านดิจิทัล และสร้างโอกาสการเติบโตไปยังธุรกิจที่ไกลกว่าการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมที่หลากหลายบนดิจิทัลแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ ตามทิศทางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ของ ปตท.

.

รางวัล Partner of the Year 2022 เป็นรางวัลที่มอบให้พันธมิตรที่นำเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ไปสรรสร้างนวัตกรรม และพัฒนา Solution สำหรับการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีใหม่ให้กับองค์กร สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

.

 

ปตท. ติดอันดับมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงสุด และเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดอันดับที่ 24 ของโลก

 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. ได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งใน 500 แบรนด์แรกของโลกที่มีมูลค่าสูงสุดกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดอันดับที่ 24 ของโลก จากการประเมินของ Brand Finance Global บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการประเมินมูลค่าแบรนด์ชั้นนำของโลก ตอกย้ำศักยภาพการขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ

 

Brand Finance Global ได้ประเมิน ปตท. จากการเติบโตของผลการดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ธุรกิจน้ำมัน รวมถึงการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมและฟื้นฟูการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผลของการดำเนินงานที่เด่นชัดดังกล่าว ส่งผลให้เกิดมูลค่าแบรนด์ที่แข็งแกร่งทัดเทียมแบรนด์ในระดับสากล

 

Mr. Alex Haigh, Managing Director - Asia Pacific of Brand Finance กล่าวว่า อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติได้เข้าสู่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงไปเป็นการใช้พลังงานทดแทนในไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากผลกระทบของโรคระบาดและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำด้านพลังงานเห็นถึงความสำคัญและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยปรับกลยุทธ์สู่การดำเนินธุรกิจพลังงานครอบคลุมทุกมิติ บนพื้นฐานของการคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน

 

นายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า การติดอันดับองค์กรที่มีมูลค่าแบรนด์สูงสุดและเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดของโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของ ปตท. ที่แสดงให้เห็นถึงการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างแข็งแกร่งในทุกมิติ ภายใต้วิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต

 

ปตท. พร้อมเป็นพลังสนับสนุนประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง โดยมุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตและการก้าวสู่ธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน อาทิ ธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (Life Science) ระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล (AI & Robotics & Digitalization) เป็นต้น

 

 

“ภูเก็ต” ยอดโหวตทะลุล้าน!!! ชิงเจ้าภาพจัดงานมหกรรมนิทรรศการระดับโลก ตอกย้ำนโยบายระดับชาติของไทย //////////////

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าของการเข้าร่วมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงาน Expo 2028 Phuket Thailand มหกรรมนิทรรศการระดับโลกว่า

.

ขณะนี้เป็นโอกาสอันดีและเป็นประโยชน์มหาศาลที่คนไทยจะมีส่วนร่วมร่วมกันของภาคประชาชนในการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพงานที่เว็บไซต์ https://support.expo2028thailand.com/th ซึ่งล่าสุดมีผู้สนับสนุนแล้ว 1,010,203 คน

.

Expo 2028 Phuket Thailand ภายใต้แนวคิด “Future of Life: Living in Harmony, Sharing Prosperity” ชีวิตแห่งอนาคต แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวเป็น Specialized Expo หรืองานนิทรรศการระดับโลกที่มุ่งนำเสนอเนื้อหาเฉพาะทาง ตอกย้ำนโยบายระดับชาติของเจ้าภาพ จึงเป็นโอกาสดีที่ไทยจะแสดงศักยภาพด้านสาธารณสุขในเวทีโลก ระยะเวลาการจัดงาน 3 เดือน

.

คาดว่าจะดึงดูดนักเดินทางได้เกือบ 5 ล้านคน และมีผู้เข้าชมหมุนเวียนตลอดการจัดงานประมาณ 7 ล้านคน จาก 106 ประเทศ นับเป็นโอกาสของไทยในการสร้างเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้เงินสะพัดมากถึง 5 หมื่นล้านบาท และยังเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันนโยบายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ที่จะยกระดับประเทศไทยให้เป็น “เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโลก” ได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้เข้าประเทศ พร้อมกับการดูแลสุขภาพของประชาชนในประเทศ”

.

ขณะที่พื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ทั่วโลกยังคงไม่เปิดรับนักท่องเที่ยว ทำให้เกาะภูเก็ต ประเทศไทยได้รับการลงคะแนนจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเป็นอันดับ 1 สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวประเภทเกาะที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Best Islands in Southeast Asia 2022)

หากไทยได้เป็นเจ้าภาพงานนี้ก็จะเป็นโอกาสอันดีที่ต่างประเทศจะได้เห็นศักยภาพของประเทศไทยและนำเม็ดเงินหมุนเวียน สร้างรายได้ให้คนไทย

.

#BangkokIloveYou #มาร่วมสร้างกรุงเทพกัน

โครงการ Battery Technology for All

ปตท. ผนึกกำลัง นูออโว พลัส ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Battery Technology for All พัฒนาเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่ มุ่งสู่ Net Zero
.
เมื่อไม่นานมานี้ นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Battery Technology for All
.
ซึ่งเป็นการลงนามระหว่าง ดร.ยุทธนา สุวรรณโชติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สถาบันนวัตกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ นายทิติพงษ์ จุลพรศิริดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ในฐานะ กรรมการ บริษัท นูออโว พลัส จำกัด เพื่อร่วมมือกันในการดำเนินการศึกษาและพัฒนาโครงการ รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่
.
การผนึกกำลังของ ปตท. และ นูออโว พลัส ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้มั่นคงอย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนินการในโครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาแบตเตอรี่ต้นแบบสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก อีกทั้งยังเป็นการประสานความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
.
โดยมีเจตจำนงในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) และสนับสนุนหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สอดคล้องตามเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมพลังงานยั่งยืน ที่พร้อมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนและสังคมในอนาคต

 

พัฒนาขนส่งใต้ อัปเดต Landbridge ชุมพร-ระนอง เผย 2 ตำแหน่งท่าเรือไหน เหมาะสุด

ความคืบหน้าล่าสุด #Landbridge ชุมพร-ระนอง 

สรุปตำแหน่งท่าเรือน้ำลึก และเส้นทาง MR8 เชื่อม 2 ฝั่งทะเล

.

ตามที่ได้สัญญาไว้เรื่องความคืบหน้าโครงการ Land bridge ชุมพร-ระนอง เลยเอาความคืบหน้าภาพรวมมาเล่าให้เพื่อนๆฟังกันหน่อยครับ

.

โดยล่าสุดทางที่ปรึกษาได้มีการทำการเปรียบเทียบตำแหน่ง ของท่าเรือทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมกับเปรียบเทียบเส้นทาง เพื่อก่อสร้างถนนเชื่อมโยงท่าเรือ 2 ฝั่งทะเล โดยเป็นโครงการเร่งด่วนตามแผน MR-Map เส้นทาง MR8

.

รายละเอียด MR8 Landbridge ชุมพร-ระนอง ก่อนหน้านี้

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1364108297360979&id=491766874595130

.

เรามาเริ่มกันที่ตำแหน่งท่าเรือกันก่อน

.

โดยแบ่งเป็น 2 ฝั่งทะเลคือ

- ฝั่งอันดามัน (ระนอง)

- ฝั่งอ่าวไทย (ชุมพร)

.

ฝั่งอันดามัน ได้มีการเปรียบเทียบในขั้นตอนสุดท้าย ทั้งหมด 3 ตำแหน่ง ได้แก่

- เกาะตาวัวดำ

- เกาะสน

- แหลมอ่าวอ่าง

.

ฝั่งอ่าวไทย ได้มีการเปรียบเทียบในขั้นตอนสุดท้าย ทั้งหมด 3 ตำแหน่ง ได้แก่

- แหลมประจำเหียง

- แหลมริ่ว

- แหลมคอเขา

.

ซึ่งมีการเปรียบเทียบในด้านความเหมาะสมด้านการเดินเรือ, การพัฒนาท่าเรือ, มูลค่าการลงทุนทั้งด้านการเงินและเศรษฐกิจ ผลกระทบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม 

.

ทำให้มีการเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดคือ

- ฝั่งอันดามัน ที่ แหลมอ่าวอ่าง

- ฝั่งอ่าวไทย ที่ แหลมริ่ว

 

*** รายละเอียดดูได้จากรูปภาพแนบด้านล่าง ***

 

หลังจากได้ตำแหน่งท่าเรือที่เหมาะสมแล้วก็มาลงเส้นทางถนน เพื่อเชื่อมโยงท่าเรือทั้ง 2 ฝั่งต่อ

.

โดยในเส้นทาง MR8 ชุมพร-ระยอง นี้จะมีส่วนประกอบที่มากกว่าถนนธรรมดา ซึ่งรวมการขนส่งทุกรูปแบบมารวมกันได้แก่

- Motorway 

- ทางรถไฟขนาดราง 1 เมตร (เชื่อมต่อรถไฟทางคู่ในประเทศ)

- ทางรถไฟขนาดราง 1.435 เมตร (เส้นทางพิเศษเพื่อเชื่อมโยงระหว่าง 2 ท่าเรือ รองรับตู้คอนเทนเนอร์ 2 ชั้น ***ในระยะยาว)

- ท่อส่งน้ำมัน และก๊าซ

- ถนนเลียบเลียบทางรถไฟ (local road)

.

ซึ่งทั้งหมดนี้ ต้องเผื่อเขตทาง 160 เมตร เพื่อรองรับในอนาคตทั้งหมด แต่ในเฟสแรกอาจจะมีแค่บางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการจริง

.

โดยเปรียบเทียบเป็น 3 ทางเลือก ได้แก่

1. เส้นทางตัดตรง จากท่าเรือแหลมริ่ว-ท่าเรืออ่าวอ่าง มีระยะทาง 80 กิโลเมตร

2. เส้นทางปรับตามภูมิประเทศ ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ อำเภอเมืองระนอง และ อ้อมลงทางทิศใต้ เข้าสู่ท่าเรืออ่าวอ่าง มีระยะทาง 89 กิโลเมตร

3. เส้นทางตามเส้นทางที่ 2 แต่มีการตัดข้ามทะเลก่อนเข้าท่าเรืออ่าวอ่าง ตามเส้นทางที่ 1 มีระยะทาง 88.7 กิโลเมตร

.

ซึ่งจากการเปรียบเทียบ ทั้ง 3 เส้นทาง เส้นทางที่ 2 เป็นเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด

ใครที่สนใจสามารถตามโครงการได้จากเว็บไซด์ http://landbridgethai.com

.

คลิปรายละเอียดโครงการ

https://youtu.be/SiVrV8MtJwc

.

โดยหลังจากได้ตำแหน่งทั้งท่าเรือ และเส้นทางเชื่อมโยง 2 ท่าเรือแล้ว ก็จะมีการกระจายโครงการไปยังหน่วยงานต่างๆในการศึกษารายละเอียดเพื่อทำแบบก่อสร้าง และการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยละเอียด เพื่อจะนำเสนอขออนุมัติต่อไป

.

หวังว่าโครงการนี้ถ้าศึกษาออกมา จะเป็นไปตามความต้องการของทั้งนักลงทุน และประชาชนในพื้นที่ เพราะสุดท้าย ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีข้อขัดแย้ง หรือไม่เห็นด้วยกับโครงการ ก็คงเกิดไม่ได้ และเสียโอกาสในการพัฒนา ประตูฝั่งอันดามันกันต่อไป!!!

.

ที่มา โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย

.

#BangkokIloveYou

#มาร่วมสร้างกรุงเทพกัน

กลุ่ม ปตท. เปิดงาน PTT Group Tech & Innovation Day 'Beyond Tomorrow' โชว์สุดยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมนำอนาคต

เมื่อวานนี้ (1 มี.ค.66) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมเป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ในพิธีเปิดงาน PTT Group Tech & Innovation Day ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Beyond Tomorrow: นวัตกรรม นำอนาคต’ โดยมี ศ.พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากกลุ่ม ปตท. หน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ และเอกชนชั้นนำร่วมในพิธี ณ ปตท. สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีรังสิต
.
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า PTT Group Tech & Innovation Day ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ก.พ. - 3 มี.ค. 66  เป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญเพื่อแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยี และการลงทุนด้านนวัตกรรมของกลุ่ม ปตท. ตลอดจนสร้างการรับรู้ทิศทางของเทคโนโลยีในอนาคต และหาโอกาสต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ทั้งจากภายในกลุ่ม ปตท. และหน่วยงานภายนอก พร้อมทั้งผลักดันการสร้างนวัตกรรมด้านพลังงานและเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ประกอบด้วย 
.
1.นิทรรศการ แสดงผลงานทางด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และธุรกิจใหม่จาก กลุ่ม ปตท. ใน 7 ด้าน ประกอบด้วย Future Energy, Future Mobility, Life Science, AI, Robotics & Digitalization, Logistics & Infrastructure, Decarbonization และ Innovation Ecosystem ที่มีส่วนในการช่วยสร้างสรรค์และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในสังคม อาทิ การดูแลสิ่งแวดล้อมจากพลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า สุขภาพและการแพทย์จากวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต สิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันของภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมจากระบบการขนส่ง โครงสร้างพื้นฐาน หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบัน 
.
2.Tech Talk เวทีแลกเปลี่ยนแนวคิด และเทรนด์เทคโนโลยี นวัตกรรมที่น่าจับตาจากภาครัฐที่ขับเคลื่อนนโยบายและผู้นำด้านนวัตกรรมกว่า 23 หัวข้อ 
.
และ 3.Pitching Desk พื้นที่นำเสนอนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ของกลุ่ม ปตท. กว่า 30 แบรนด์ ที่พร้อมให้นักลงทุนและผู้สนใจได้ร่วมพูดคุย ต่อยอดและขยายโอกาสการเติบโตสู่ธุรกิจที่ไกลกว่าพลังงานไปด้วยกัน ตลอดจนจะได้พบกับสินค้านวัตกรรมที่พร้อมให้ช้อป ชิมจากกลุ่ม ปตท. อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจาก Innobic, น้ำเชื่อมหญ้าหวาน Natural Nxt, อาหารโปรตีนจากพืช NRPT, ไอศกรีมกะทิสดแท้ Kathisod Station และผลิตภัณฑ์รักษ์โลกจาก MORE 
.
“กลุ่ม ปตท. มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดจนเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตเป็นที่ยอมรับทั้งในภูมิภาคอาเซียนและเวทีโลก พร้อมขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคตได้ต่อไป” นายอรรถพลกล่าวเสริม
 


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Bangkok I Love You
Take Me Top